วันพุธที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2556

คู่มือ NEC SL1000

คู่มือ NEC SL1000 

เพิ่งซื้อ "NEC SL1000 Smart Communication Server" มา และจะโปรแกรมเอง 

Download VDO Training
Download SL1000 PCPro v1.00
Download SL1000 PCPro v1.20
Download SL_Feature_and_Specifications_Manual
Download SL1000 Getting Started Guide (Issue1.0) for GE
Download SL_Programming_Manual
Download SL1000_Mobile_Extension
Download SL1100_Hardware_Manual
Download SL1000_Training_(System_Installation)
Download SLSeries_MyCalls_v3.2.0.0_Installation_Manual
Download SL_Mycalls_End_User_Manual_R2
Download Main Firmware 1.00
Download Mycalls_v3.2.0.0


เป็นเรื่องที่ดี ที่ตู้ PBX NEC สามารถถูกโปรแกรมผ่านทาง PC ได้ ทำให้สะดวก และเห็นภาพแล้วเข้าใจง่ายขึ้น แต่มันก็ไม่ง่ายแบบหมูๆสำหรับตู้ PBX  ตู้นี้

เป็น PBX ที่ราคาถูกมากเมื่อเทียบกับ Phonnik รุ่น JSD ที่ผมใช้อยู่ และกำลังจะตายจากไป ด้วยค่าซ่อม 16,000 บาทที่ Phonnik เสนอมา จะซื้อใหม่ยี่ห้อเดิมก็ต้องจ่าย 30,000 กว่า เลยมาซื้อ NEC ดีกว่าถูกกว่า มี Feature เทพกว่าเยอะ เรียกว่า Phonnik กับ NEC อยู่คนละภพภูมิกันเลยที่เดียว มาถึงตรงนี้ผมเป็นห่วง Phonnik จริงๆครับ

Feature: NEC รุ่น SL1000
1. Hybrid Concept แปลว่าเสียบโทรศัพท์ไปเหอะ ตู้PBX จะรู้เองว่าเครื่องใด เป็น MLT หรือ SLT (MLT คือเครื่องโทรศัพท์ที่ใช้ปรแกรมได้ SLT คือเครื่องโทรศัพท์ธรรมดา) หมายความว่าผมจะโปรแกรมผ่าน HeadPhone ที่ไหนก็ได้ ไม่จำกัดจำเขี่ยเหมือน JSD
2. IP-Enabled เมื่อมันมี IP ผมก็ใช้ PC โปรแกรมมันได้
3. Productive Communication
4. Mobile Extension
5. Built-in Voice Messaging
6. ECOLOGY
7. Day / Night Mode 

สิ่งแรกที่ตื่นเต้นคือ Port LAN มี Feature Auto Crossover ด้วยละ ทำให้สะดวกไม่ต้องเตรียมสาย Cross

Step 1. เริ่มจากอ่าน
1. SL1000_Hardware_Manual_1.0_IT
2. SL1000_Training_(System_Installation)
3. SL1000 Getting Started Guide (Issue1.0) for GE

Step 2. วางแผนบนกระดาษตามความต้องการก่อน
สรุปความต้องการและทำเป็นแผนผัง

Step 3. เริ่มเชื่่อมต่อ โดยใช้ PcPro
เข้าใช้งานด้วย Username: tech ,Password: 12345678


ไปที่เมนู Communication เลือก Connect

เปลี่ยน IP เป็น 192.168.0.12 เพราะ192.168.0.10 มันไปซ้ำกับเครื่องในวงLAN 
และใช้ Username: tech ,Password: 12345678 อันเดิม

Download ข้อมูลการตั้งค่ามาแสดงผล

ติ๊ก Select all แล้วคลิ๊ก  Start

ไปที่ tap ด้านล่าง System Data และไปที่หัวข้อ 10-02

เติมรหัสประเทศ รหัสจังหวัด และรหัสสำหรับโทรออก แล้วกด Apply ที่มุมขวาบน

เปลี่ยนเสียงเพลงจากแบบ 1 เป็น 3

เปลี่ยน ip และ Zone เวลา

สร้างหมายเลขภายในที่เมนู 11-02

เปลี่ยนสลับโหมดกลางแบบแบบอัตโนมัติ

Group 1 เริ่ม 08:00 ถึง 19:00

Group 2 เริ่ม 09:00 ถึง 16:00

12-03 นำตารางเวลาที่ตั้งไว้มาใส่ตามวันในสัปดาห์

ตารางเวลา แบบที่ 1 สำหรับจันทร์-เสาร์

ตารางเวลา แบบที่ 2 สำหรับวันหยุด

ตารางเวลา แบบที่ 3 สำหรับอาทิตย์

วันพฤหัสบดีที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เทคนิคการขับรถลดอุบัติเหตุ (Defensive Driving Technique)


โดย น..กิจจา  เรืองไทย
ที่ปรึกษาอาวุโส ความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม

            เกร็ดจากการอบรมเรื่อง เทคนิคการขับรถลดอุบัติเหตุ บรรยายโดย คุณพีระพงษ์ กลั่นกรอง ผู้มีประสบการณ์ทั้งในการสอนและในสนามแข่งจาก Turning Point Consultant Co., Ltd.
1.      กฎความปลอดภัย
§       ก่อนสตาร์ทเครื่องยนต์
-          คาดเข็มขัดนิรภัยและปรับเบาะนั่ง
-          ปรับมุมกระจกส่องหลังทั้ง 3 บาน
-          เลื่อนคันเกียร์มาที่ตำแหน่ง P (รถเกียร์อัตโนมัติ) หรือเกียร์ว่างสำหรับรถเกียร์ธรรมดา
§       ขณะสตาร์ทเครื่องยนต์ให้เหยียบคลัซ (รถเกียร์ธรรมดา) หรือเบรค (รถเกียร์อัตโนมัติ)
§       อย่ายืนสตาร์ทเครื่องยนต์รถ
§       กรณีขับรถถอยหลัง ให้ขับช้าๆ เท่าที่จะทำได้
§       เหยียบเบรคทดสอบในระยะ 10 เมตรแรกที่เคลื่อนรถออก
§       ดึงเบรคมือทุกครั้งที่จอดรถ (รวมทั้งจอดรอสัญญาณไฟ)
§       หมุนพวงมาลัยให้ล้อชนขอบถนน เมื่อจอดรถบนทางลาดชัน
§       การเปลี่ยนยางรถให้หาวัสดุมารองหนุนล้อรถ เพื่อกันรถเคลื่อนขณะขึ้นแม่แรงยกรถ
§       อย่าจอดรถบนเชิงสะพาน ทางโค้ง หรือช่องขวาสุด เมื่อรถเสีย
2.      ท่านั่งขับรถ (จะบอกขีดความสามารถในการควบคุมรถ)
§       การปรับระยะห่างเบาะรองนั่ง สำหรับรถเกียร์ธรรมดา ให้เท้าเหยียบแป้นคลัชจนสุด ค้างไว้ โดยไม่เขย่ง แล้วเลื่อนเบาะเข้ามาให้เข่างอเล็กน้อย และรถเกียร์อัตโนมัติให้เหยียบคันเร่งจนสุด โดยไม่เขย่งแล้วเลื่อนเบาะเข้ามาเหมือนกับรถเกียร์ธรรมดา
§       ต้องนั่งหลังพิงพนักเบาะให้มั่นคง เวลาโดยชนจะลดแรงที่กระทำต่อกล้ามเนื้อหลัง
§       ปรับระดับคอพวงมาลัยให้เห็นมาตรวัดและไพเตือนบนหน้าปัดและวงพวงมาลัยต้องสูงพ้นหน้าตัก/หน้าขาของผู้ขับรถ
§       มือจับพวงมาลัยส่วนบนสุดและงอแขนเล็กน้อย จะช่วยให้มีระยะหมุนพวงมาลัยได้ดีกว่าการเหยียดแขนตรง
§       เวลาขับรถอย่านั่งหุบเข่า ให้เข่าซ้ายยันกับคอนโซลกลางรถ เพื่อให้เกิดความมั่นคงเวลาขับรถ
§       การหมุนพวงมาลัย ต้องให้น้ำหนักเท่ากันทั้งมือขวาและซ้าย จะทำให้หมุนพวงมาลัยไม่กระตุก
§       ในการเหยียบเบรคหรือคลัซ ให้ส้นเท้าลอยจากพื้นรถ (ถ้าส้นเท้าแตะพื้นรถ แรงจะลงที่พื้นรถมากกว่าไปที่คันเบรค เป็นสาเหตุให้เบรครถไม่หยุด โดยเฉพาะเมื่อเกิดเหตุวิกฤติ)
3.      การวางแผนขับรถ (Driving plan) จะช่วยลดอุบัติเหตุลงได้ ผู้ขับขี่จะต้อง
§       มองรถที่อยู่ข้างหน้าไปอีก 5 คัน ในการขับตามกันบนถนน (ที่รถวิ่งด้วยความเร็วสูง) ถ้าคันหน้าแตะเบรค ผู้ขับขี่ก็จะมีเวลาประมาณ 5 วินาทีในการตอบสนองได้ทัน
§       ขณะขับรถเข้าโค้ง ตาต้องมองไปที่ทางโค้ง ซึ่งตาจะประเมินความโค้งและมือจะมีความสัมพันธ์กับตาทำให้ควบคุมรถเข้าโค้งได้ดีขึ้น
§       การขับรถเข้าโค้ง ให้ชะลอความเร็ว หรือแตะเบรคก่อนเข้าโค้ง (Entrance) แล้วถอนเบรค พร้อมกับเร่งคันเร่งเมื่อถึงกลางโค้ง (Apex) และคืนพวงมาลัยเมื่อสุดโค้ง (Exit) ดูภาพประกอบ
§       การเปลี่ยนเกียร์
-          เกียร์ธรรมดา เปลี่ยนที่ความเร็วรอบระหว่าง 3,000-4,000 รอบต่อนาที แต่เมื่อจะ  แซงให้เปลี่ยนเป็นเกียร์ต่ำก่อน
-    เกียร์อัตโนมัติ ให้ใช้ Kick Down ในการแซง
4.      เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย (Driving Tip)
§       การหยุดรถ ควรหยุดห่างจากท้ายรถคันข้างหน้าในระยะที่สามารถมองเห็นล้อรถคันข้างหน้าได้
§       การเปลี่ยนช่องทาง การเลี้ยวหรือแซง ควรให้สัญญาณไฟกระพริบอย่างน้อย 3 ครั้ง ก่อนหมุนพวงมาลัยและควรระมัดระวังรถจักรยานยนต์ที่อาจแซงขึ้นมา
§       การเว้นระยะห่างในขณะขับรถ ควรเว้นระยะห่างประมาณ 2-4 วินาที โดยสังเกตระยะทางประมาณหนึ่งช่วงเสาไฟฟ้า
§       การจอดรถ ควรถอยเข้าที่จอดรถ เพื่อหลีกเลี่ยงการชนกันขณะขับออกจากที่จอดและง่ายต่อการบังคับรถ

การแก้ปัญหาฉุกเฉิน
1.      กรณีหม้อน้ำรั่ว ให้หยุดรถแล้วดับเครื่องยนต์ จากนั้นสังเกตรอยรั่วของหม้อน้ำ ซึ่งจะมีน้ำพุ่งออกมา ต้องอยู่ห่างๆ และห้ามเปิดฝาหม้อน้ำโดยเด็ดขาด เพราะอาจทำให้น้ำร้อนพุ่งออกมาลวกได้ ควรปล่อยให้หม้อน้ำเย็นลง
2.      กรณียางระเบิด จะมีเสียงดังจากการระเบิดของยาง พยายามรวบรวมสติไว้ อย่าหักพวงมาลัยทันทีทันใด ค่อยๆ ผ่อนความเร็วลง พวงมาลัยรถจะค่อยๆ หนักขึ้น รถจะเอียงไปทางด้านที่ล้อระเบิด บังคับรถให้วิ่งตรงทาง ค่อยๆ เหยียบเบรคที่ละน้อย นำรถเข้าชิดขอบทางด้านซ้ายแล้วเปลี่ยนยางอะไหล่
3.      เบรคแตก เมื่อเหยียบเบรคจะรู้สึกว่าจมหายลงไปไม่มีแรงต้าน ห้ามล้อไม่ได้ ให้บังคับพวงมาลัยให้รถวิ่งไปในทางที่ปลอดภัย พร้อมกับใช้นิ้วหัวแม่มือซ้ายกดปุ่มล็อคคันเบรคมือไว้ แล้วค่อยๆ ดึงคันเบรคมือขึ้นและลงสลับกัน จนกระทั่งชะลอความเร็วและหยุดรถได้สนิท ข้อควรระวังก็คือ อย่าดึงเบรคมือขึ้นอย่างแรงในทันทีทันใด
4.      รถตกน้ำ อย่าตกใจจนไม่ได้สติ ปลดล็อคเข็มขัดนิรภัยออก (การคาดเข็มขัดนิรภัย ในขณะขับขี่เป็นสิ่งที่ดีที่สุด แม้ในกรณีนี้ อย่าเข้าใจผิดว่าเมื่อคาดแล้วจะทำให้ปลดล็อคไม่ทัน เพราะเมื่อรถกระแทกจะทำให้ตัวท่านไม่กระเด็น ทำให้ไม่ได้รับบาดเจ็บ และไม่หมดสติ ซึ่งอาจจะทำให้ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้) ปล่อยให้ตัวรถบริเวณติดตั้งเครื่องยนต์จมน้ำก่อน ถ้าสามารถเปิดหน้าต่างหรือประตูรถออกได้ในขณะที่ตัวรถยังไม่จมน้ำหมดทั้งคันให้รีบทำ
5.      กระจกหน้าแตก รวบรวมสติ พยายามจำข้างหน้ารถไว้ว่ามีอะไรบ้าง เพื่อบังคับรถไม่ให้ชน เปิดไฟเลี้ยวซ้ายเข้าจอดไหล่ทางด้านซ้ายมือ ป้องกันรถคันอื่นชนและดึงเบรคมือไว้ หากมีผ้าเทปอยู่ในรถให้นำมาปิดประจกไว้ แล้วเคาะกระจกออก ถ้ามีแว่นตาให้ใส่ไว้เพื่อกันฝุ่นเข้าตา

ขับอย่างมีสติ  ทุกชีวิตจะปลอดภัย

วันเสาร์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2556

โปรแกรม จัดการฐานข้อมูล MySQL แบบฟรี

เราไม่ต้องใช้ phpMyAdmin ที่แสนช้าอีกต่อไป เพราะว่าเรามีโปรแกรม ที่ควบคุม และจัดการ MySQL ได้จากเครื่องของเราเลย


ก่อนอื่นขอท้าวความ ไปถึงการจัดการ MySQL แบบปกติก่อน ก็คือว่าทุกวันนี้ คนส่วนใหญ่จะจัดการ MySQL database ด้วย phpMyAdmin กัน เพราะว่าเป็นตัวที่ติดมากับ server จำลองหลายๆตัว ส่วนตัวผมเอง ก็ยอมรับเลย ว่าตั้งแต่เริ่มศึกษาการทำเว็บ ก็ใช้ phpMyAdmin มาตลอดนี่แหล่ะ เพราะตอนนั้นไม่รู้เรื่องมากเท่าไร แต่ใช้ไป ใช้มา รู้สึกว่ามันช้าครับ ไม่ทันใจเลย จนเมื่อสามปีก่อนได้มั้ง ผมก็เริ่มเสาะหาโปรแกรมที่ทำหน้าที่จัดการ MySQL ได้จากเครื่องเรา โดยไม่ต้องอาศัย Web base แบบ phpMyAdmin (เพราะเป็น web base มันเลยช้า) จนได้รู้จักโปรแกรม Navicat เข้าครับ แล้วพบว่ามัน work มากถูกใจผมเลย เพราะว่ามันจะใช้งาน internet เฉพาะการสั่งงาน mysql กับผลลัพท์เท่านั้น ที่เหลือ ส่วนการแสดงผลต่างๆ เป็นหน้าที่ของ GUI ที่แสดงในโปรแกรมนั่นล่ะครับ ด้วยความที่ทำงานได้เร็ว และง่าย ผมก็ละเมิดลิขสิทธิ์ใช้มาตลอด
จนกระทั่ง บทความ ว่าด้วยเรื่องการผิดศีลข้อ 2 ของคนใช้คอมพิวเตอร์ ทำให้ผมต้องเสาะหาโปรแกรมทดแทนใหม่อีกครั้ง เพราะว่าตอนนี้ Navicat เป็นโปรแกรมละเมิดลิขสิทธิ์โปรแกรมเดียวเท่านั้นที่ยังเหลืออยู่ในเครื่อง ที่เหลือเปลี่ยนเป็น Open Source หรือว่า Freeware หรือเป็นโปรแกรมที่ถูกลิขสิทธิ์ทั้งหมดแล้ว
จนกระทั่ง พบรักเข้ากับโปรแกรมที่ชื่อว่า MySQL Workbench ที่เป็นของ Sun (เจ้าของ ลิขสิทธิ์ MySQL ในปัจจุบัน) เค้าทำขึ้นมาให้เราเอาไปใช้งานได้ฟรี! นี่แหล่ะที่ผมต้องการ แน่นอนครับ รีบ download ลงมาอย่างไว และทดสอบใช้งานอย่างด่วนเลย เบื้องต้น ที่ผมทดสอบการใช้งานแบบ ง่ายๆ พบว่า ทำงานได้ใกล้เคียงกับ Navicat มากเลยครับ แต่ประหยัดเงินไปได้ $129 หรือประมาณ 4,000 กว่าบาท มันสุดยอดมากครับ ผมคิดว่าจะใช้ตัวนี้ไปตลอดเลย เพราะว่าฟรี และใช้งานสะดวกไม่ต่างกันด้วย

จริงๆนอกจาก MySQL Workbench แล้ว ผมค้นพบว่า ยังมีอีกหลายตัวเลยครับ ที่เป็น Freeware แต่ผมยังไม่ได้ลอง ใครที่ประสบการณ์เยอะๆ มาแลกเปลี่ยนกันก็ได้ครับ ว่าตัวไหน ดีมากน้อยต่างกันอย่างไร
สำหรับใครที่อยากใช้งาน ให้เริ่มจาก download ได้ที่ http://www.mysql.com/downloads/workbench/ มีทั้ง version ติดตั้งลงเครื่อง และแบบ Portable ด้วย นี่ล่ะที่ถูกใจผมมากๆ เพราะว่าไม่ต้องติดตั้งอะไรเลย (ย้ายเครื่องก็ยังเอาไปทำงานได้ด้วยนะ)
สำหรับวิธีการใช้ สำหรับคนที่ไม่เคยใช้งานโปรแกรมแบบนี้ ผมขอเล่าให้ฟังถึงการทำงานของโปรแกรมแบบนี้ก่อน จะใด้เข้าใจครับ โปรแกรม เช่น Navicat หรือ SQLyog หรือ MySQL Workbench เหล่านี้ เป็นโปรแกรมที่ทำหน้าที่ในการจัดการ database จัดการในที่นี้ก็หมายถึงทุกอย่างเลย เช่น การสร้าง table การแก้ไขโครงสร้าง table หรือ database รวมไปถึงการจัดการด้านข้อมูล โดยทำได้หมด ไม่ว่าจะเป็นการ create edit delete โดยทำผ่านโปรแกรมเหล่านี้ได้เลย คล้ายกันกับการใช้งาน ผ่าน phpMyAdmin นั่นแหล่ะ แต่ว่า phpMyAdmin เป็น web base ทำงานผ่าน web browser ใช้ server ประมวล และส่งข้อมูลมาในรูปแบบหน้าเว็บ แต่โปรแกรมเหล่านี้ไม่ใช่ เพราะว่าหน้าตาต่างๆนั้น เป็นส่วนของโปรแกรมอยู่แล้ว โปรแกรมแค่ทำหน้าที่ ไปดึงเอาเฉพาะส่วนของข้อมูลจาก server มาเท่านั้น และแสดงผลออกมาในรูปแบบตามมาตรฐานที่ควรจะเป็น ทำให้โปรแกรมพวกนี้ทำงานได้เร็วกว่า phpMyAdmin มาก อีกทั้งมันยังมีความสามารถอื่นๆอีก เช่น การ การ copy table, การลบ table ก็ทำได้โดยใช้เม้าส์คลิกได้เลย ง่ายๆ ลดเวลาลงไปเยอะ
เมื่อเข้าใจดีแล้ว ก็เริ่มใช้งานกันเลยครับ

โปรแกรม MySQL Workbench ทั้ง 3 ส่วน

ส่วนแรก SQL Developer

ส่วนนี้ทำหน้าที่ ในการเชื่อมต่อออกไป database ต่างๆตามที่เราได้สร้างเอาไว้ก่อนนี้แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้หัวข้อนี้เป็นหลัก เพราะว่าเราจะทำกับโครงสร้าง table และข้อมูลใน table ซะเป็นส่วนใหญ่ 

ส่วนสอง Data Modeling

ส่วนนี้ทำหน้าที่ เป็นเครื่องมือช่วยออกแบบ database ทั้งโครงสร้าง และความสัมพันธ์กันในรูปแบบต่างๆ และ สร้างออกมาเป็น SQL code ให้เลย (ผมไม่เคยใช้เลย เพราะว่าปกติจะร่างในกระดาษหรือนึกๆเอาตลอด หากมีเวลาอาจจะลองใช้งานดู)

ส่วนสาม Server Administration

ส่วนนี้ทำหน้าที่เอาไว้ ควบคุม ดูแล จัดการ server MySQL โดยเน้นสำหรับคนที่เป็น DBA (Database Administrator) ใช้งานเป็นหลักเลยครับผมไม่ได้ใช้อีกเช่นกัน เพราะว่าโอกาสที่จะใช้มีน้อยครับ หากมีโอกาสก็คงไม่พลาดที่จะลองเช่นกัน
เริ่มต้น สำหรับคนที่ต้องการใช้งานกับ server จริง ตรวจสอบให้มั่นใจก่อนว่า server ของท่านเปิด host % เอาไว้ใน MySQL database ตัวนั้น เพราะค่าปกติเค้าจะปิดเอาไว้เพื่อความปลอดภัยครับ ถ้ายังไม่เปิด ให้ add host ผ่าน control panel ที่ท่านใช้งาน หรือปรึกษาผู้ให้บริการ hosting ที่ท่านใช้งานได้ครับ ย้ำอีกครั้ง ว่า การเปิด host % จะทำให้ความปลอดภัยของ database ต่ำลง เพราะว่ามันจะรับ connection ที่มาจากทุกที่ใน internet (ค่าปกติจะรับเฉพาะเครื่อง server เท่านั้น หรืออีกนามก็คือ localhost นั่นเอง)
เมื่อเตรียม database ให้พร้อม แน่นอนว่า username ,password ก็ต้องพร้อมแล้ว เรามาเริ่มกันเลยครับ
หลังจากที่ download เสร็จแล้วก็ติดตั้ง หรือแตกไฟล์(สำหรับคนที่เลือก download แบบ .zip เท่านั้น)
กลับมาที่การใช้งานส่วนแรก ของ MySQL Workbench เราจำเป็นที่จะต้องสร้าง connection เอาไว้ก่อน เหตุผลเพราะว่าโปรแกรมจะต้องรู้ ว่าคุณต้องการจัดการ Connection database ของที่ไหน เพราะว่าหลายคนมีหลาย server และ หลาย database
สร้าง connection ใน mysql workbench
จากนั้นให้เรากรอกข้อมูลของ MySQL ที่เราใช้งานลงไป ใครใช้งาน database ในเครื่องตัวเองก็ localhost หรือ 127.0.0.1 ส่วนใครใช้ที่ server ก็ใส่ ip หรือ dns ก็ได้ (อย่าลืมเปิด host % ก่อนนะ ตามย่อหน้าบนๆที่กล่าวเอาไว้ก่อนแล้ว) สำหรับใครที่ต้องการเก็บรหัสผ่านเอาไว้เลย ไม่ต้องกรอกทุกครั้ง (เพิ่มความสะดวก ลดความปลอดภัย) ก็กดปุ่ม แล้วกรอกรหัสลงไป แนะนำว่าเมื่อเรียบร้อย ให้กด test connection ก่อน OK เพราะว่าเราจะได้รู้ว่าค่าที่เรากรอกถูกต้องหรือเปล่า ถ้าจะผิด ก็มีแค่เครื่อง ยังไม่เปิด host % , user ผิด, pass ผิด, ใส่ address ผิด หรืออื่นๆก็คือ internet ที่ใช้งาน block port 3306 เอาไว้อยู่ ก็เป็นได้
เมื่อเรียบร้อยแล้ว เราก็กด double click เพื่อเข้าไปดู connection ของเรา เราจะเห็น database ของเราปรากฏอยู่ และ table ต่างๆ(กด drop down ดูครับ) ทั้งนี้ กด click ขวาดูก็ได้ ว่าเราทำอะไรได้อย่างไรบ้าง จะเห็นได้ว่ามันง่ายมากๆเลยในการใช้งาน
อ้อ สำหรับคนที่ไม่คุ้นเคย ก่อนที่เราจะจัดการ database เรา ให้เราเลือก database ก่อนนะครับ ด้วยคำสั่ง use ชื่อdatabase; เช่น use databasename; แล้วสั่งรัน (ปุ่มสายฟ้าฟาด) หรือกด ctrl+enter หลังจากนั้น เราก็ทำงานบน database นั้นๆเลย (มีประโยชน์สำหรับคนมี หลาย database ใน 1 connection ครับ)
ขอให้สนุกกับ database ครับ