ไม่รู้เคยเจอกันรึเปล่า โปรแกรมที่เวลาเปิดต้องเสียบอะไรที่คล้ายๆแฟชไดว์ไว้ที่ตูดคอมตอนเปิดโปรแกรม
ถ้าเคย วันนี้เราจะเขวี้ยงมันทิ้งไป !!
โปรแกรมที่จะบอกนี้มีการทำงานคือ จะดั๊มข้อมูลจากฮาดลอก จากนั้นจะทำการจำลองมันขึ้นมา
วันพุธที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2554
วันเสาร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2554
โปรแกรม R-Studio 4.5
กู้ไฟล์,recovery,โปรแกรมกู้ไฟล์,r-studio 4.5
บทความเกี่ยวกับการกู้ไฟล์ โดยใช้โปรแกรม R-Studio 4.5
บทความเกี่ยวกับการกู้ไฟล์ โดยใช้โปรแกรม R-Studio 4.5
มีคนหนึ่งเคยบอกผมว่า ลงวินโดว์ได้ครั้ง 300-500 บาท
แต่หากเรากู้ไฟล์ได้เราสามารถทำเงินได้มากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับงานลูกค้าด้วยครับ ข้อมูลยิ่งสำคัญมากก็ยิ่งมีราคามาก
แล้วแต่การต่อรองราคาครับ หากเป็นผมนั้นจะพูดอยู่ติดปากประจำครับว่า "แล้วแต่จะให้ครับ"
แต่หากเรากู้ไฟล์ได้เราสามารถทำเงินได้มากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับงานลูกค้าด้วยครับ ข้อมูลยิ่งสำคัญมากก็ยิ่งมีราคามาก
แล้วแต่การต่อรองราคาครับ หากเป็นผมนั้นจะพูดอยู่ติดปากประจำครับว่า "แล้วแต่จะให้ครับ"
ป้ายกำกับ:
โปรแกรม R-Studio 4.5
วันอังคารที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
C#: Set And Unset Auto-start For Windows Application
I found this useful C# class in this MSDN forum that provides an easy way to enable and disable an application auto-run in Windows.
With a little modification, I made it to be easily called by any project. What you need to do is just pass in the 'Key Name' and 'Assembly Location' parameters.
Here is the complete class:
With a little modification, I made it to be easily called by any project. What you need to do is just pass in the 'Key Name' and 'Assembly Location' parameters.
Here is the complete class:
ป้ายกำกับ:
Auto-start For Windows Application
วันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
EX Ping c#
|
วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
ยกเลิกการซ่อนเซลใน Excel ทั้งหมดภายใน 3 คลิ้ก
ยกเลิกการซ่อนเซลใน Excel ทั้งหมดภายใน 3 คลิ้ก
i
Rate This
ในกรณีที่มีการซ่อนเซลจำนวนมาก จนนับไม่ถ้วน การจะแสดงเซล (Unhide) เหล่านั้นทีละแถวหรือคอลัมน์ คงเป็นเรื่องยุ่งยากมากๆ แต่ผมมีวิธีลัดที่จะทำให้การแสดงเซลที่ซ่อนทั้งหมด Unhide เพียงแค่ 3 คลิ้กเท่านั้น ทำตามวิธีดังต่อไปนี้ได้เลยครับ
วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
c# โปรแกรม ping
using System; using System.Net; using System.Net.NetworkInformation; using System.Text; class Program { static void Main(string[] args) { Ping pingSender = new Ping(); String data = "bbbbbbbbbbbbbbbbbbbbbbbbbbbbbbbb"; byte[] buffer = Encoding.ASCII.GetBytes(data); int timeout = 120; Console.Write("Enter IP Address:"); String ip = Console.ReadLine(); PingReply reply = pingSender.Send(ip, timeout, buffer); if (reply.Status == IPStatus.Success) { Console.WriteLine("Address:{0}", reply.Address.ToString()); Console.WriteLine("RoundTrip time: {0}", reply.RoundtripTime); Console.WriteLine("Time to live: {0}", reply.Options.Ttl); Console.WriteLine("Don't fragment: {0}", reply.Options.DontFragment); Console.WriteLine("Buffer size: {0}", reply.Buffer.Length); } Console.ReadKey(); } }
ป้ายกำกับ:
c# ping
วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
Thai Android Apk Tips&Trick : วิธีการลง Custom Rom ให้ Samsung Galaxy Tab 10.1 (Overcome V1.2.1)
มาเจอกันอีก 1 บทความ Tips&Tricks ครับ บทความนี้จัดหนักนิดนึง มาลงรอมโม(Custom Rom)กันครับ เดี๋ยวจะอธิบายเป็นภาษาไทยแบบ step by step เลยนะครับ แต่ขอบอกไว้ก่อนนะครับ การลง Custom Rom อาจจะทำให้หมดประกันหรือทำอันตรายต่อเครื่องของท่านได้ ก่อนจะลง Custom Rom ให้ Galaxy tab 10.1 ควรพิจารณาความเสี่ยงในจุดนี้ด้วยครับ เมื่อเตรียมตัวเตรียมใจพร้อมแล้วก็ไปลุยกัน
1.ดาวน์โหลดเจ้าตัว Restock Rom ไปเก็บไว้ใน Computer ก่อนเลยครับ เพราะเราจะใช้เจ้า Rom ตัวนี้เป็นรอมพื้นฐานก่อนจะลง Rom ของ Overcome นะครับ
001001-P7500_KI1_Restock.zip
2.ระหว่างรอการดาวน์โหลด จะ Backup อะไรก็ Backup เตรียมไว้นะครับ เพราะถ้าลงรอมใหม่ ข้อมูลทุกอย่างจะหายหมดเลย และสำหรับใครที่ยังไม่ Kies (เป็น Synchronize Software ของ Samsung ดาวน์โหลดได้ที่ Kies Download) แนะนำให้ลง Kies เพื่อที่คอมพิวเตอร์จะได้มี ไดรเวอร์ของ Galaxy Tab 10.1 ของเราครับ
3. Extract(แตกไฟล์) 001001-P7500_KI1_Restock.zip ออกมาครับ สมมุติ Extract ไว้ในโฟลเดอร์ 001001-P7500_KI1_Restock นะครับ ซึ่งใน Folder (สำหรับคนที่เคยลงรอมตัวอื่นอาจจะงงนะครับ ทำไมไม่มีไฟล์ PITแต่เดี๋ยว PIT ตามมาครับ)
4. ดาวโหลด GT-P7500_PIT.zip มาครับ แล้วเมื่อ Extract File ออกมา จะได้ไฟล์ android_fastboot_emmc_full_p4_16G_32G.pit ให้นำไปเก็บไว้ใน 001001-P7500_KI1_Restock นะครับ พักคอมพิวเตอร์ของเราไว้ก่อนครับ
5. คราวนี้มาดูที่ Galaxy Tab 10.1 ของเราครับ ทำการปิดเครื่องก่อนเลยครับ เมื่อเครื่องปิดสนิทแล้ว ให้กดปุ่ม Power + ปุ่มลดเสียง (ปุ่ม Volumn Control ด้านที่ติดกับปุ่ม Power นะครับ) ค้างไว้ครับ แล้วจะมีรูป
ซึ่งปุ่มลดเสียงจะเป็นตัวเลื่อน Cursor ให้เลื่อน Cursor ไปที่เจ้าหุ่นเขียว Android ตามรูปครับ และกดที่ปุ่มเพิ่มเสียงเพื่อเข้าไปครับ แล้วจะได้ดังรูป
และนำเจ้า Galaxy Tab 10.1 ของเราไปต่อกับคอมพิวเตอร์ผ่านสาย USB DATA CONNECTOR ที่เค้าแถมมาให้นะครับ
6. กลับมาที่คอมพิวเตอร์ของเราครับ เปิดโฟลเดอร์ 001001-P7500_KI1_Restock และเข้าไปเปิด Odin3 v1.85.exe ซึ่งะอยู่ในโฟลเดอร์ Odin3 v1.85 อีกทีครับ จะได้หน้าตาดังรูป
ป้ายกำกับ:
tab 10.1
วันศุกร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
c# excel
add referent
com->microsoft office 12.0 Object Libary
net ->mircrosoft office interrop.excel
###############################################################33
using Excel = Microsoft.Office.Interop.Excel;
using System.Reflection;
// --- export เป็นไฟล์ Excel --------
private void mergeCell(string incell, ref Excel.Application excelApp)
{
excelApp.get_Range(incell, Type.Missing).Merge(Type.Missing);
}
private void bt_excel_Click(object sender, EventArgs e)
{
saveFileDialog1.Filter = "Excel File(*.xls)|*.xls";
saveFileDialog1.ShowDialog();
Excel.Range oResizeRange;
Excel.Application xlApp ;
Excel.Workbook xlWorkBook ;
Excel.Worksheet xlWorkSheet ;
object misValue = System.Reflection.Missing.Value;
xlApp = new Excel.ApplicationClass();
xlWorkBook = xlApp.Workbooks.Add(misValue);
xlWorkSheet = (Excel.Worksheet)xlWorkBook.Worksheets.get_Item(1);
//----------------- หัวตาราง ---------------------------
xlWorkSheet.Cells[1, 1] = "ข้อมูล แผนก: " + dgv_data[11, 0].Value.ToString() + " หน่วยรถ: " + dgv_data[12, 0].Value.ToString(); ;
xlWorkSheet.Cells[2, 1] = "พื้นที่ จังหวัด: " + dgv_data[7, 0].Value.ToString() + " อำเภอ: " + dgv_data[6, 0].Value.ToString() + " ตำบล: " + dgv_data[5, 0].Value.ToString();
//--------ตัวหนา --------
xlApp.get_Range("A1", "D1").Font.Bold = true;
xlApp.get_Range("A4", "M4").Font.Bold = true;
//-----ขนาดคอลัม ------------
xlApp.get_Range("A4","A4").ColumnWidth = 20;
xlApp.get_Range("B4", "B4").ColumnWidth = 15;
xlApp.get_Range("E4", "F4").ColumnWidth = 15;
xlApp.get_Range("G4", "G4").ColumnWidth = 15;
xlApp.get_Range("J4", "K4").ColumnWidth = 15;
//------marge cell --------
mergeCell("A1:M1,A2:M2",ref xlApp);
//------จัดกลาง---------
xlApp.get_Range("A4", "M1").HorizontalAlignment = Excel.XlVAlign.xlVAlignCenter;
xlApp.get_Range("A2", "M2").HorizontalAlignment = Excel.XlVAlign.xlVAlignCenter;
xlWorkSheet.Cells[4, 1] = "ชื่อร้าน";
xlWorkSheet.Cells[4, 2] = "ผู้ติดต่อ";
xlWorkSheet.Cells[4, 3] = "เลขที่";
xlWorkSheet.Cells[4, 4] = "หมู่ที่";
xlWorkSheet.Cells[4, 5] = "ถนน";
xlWorkSheet.Cells[4, 6] = "ตำบล";
xlWorkSheet.Cells[4, 7] = "อำเภอ";
xlWorkSheet.Cells[4, 8] = "จังหวัด";
xlWorkSheet.Cells[4, 9] = "รหัสไปรษณีย์";
xlWorkSheet.Cells[4, 10] = "เบอร์ร้าน";
xlWorkSheet.Cells[4, 11] = "มือถือ";
xlWorkSheet.Cells[4, 12] = "Day Trip";
xlWorkSheet.Cells[4, 13] = "วันเยี่ยม";
//---- ตีเส้น -----------------------------------------------
oResizeRange = xlApp.get_Range("a4", "a" + (dgv_data.RowCount + 4).ToString()).get_Resize(Missing.Value, 13);
oResizeRange.Borders.Weight = Excel.XlBorderWeight.xlThin;
// ----------------------------cell value format string ----------------------------
xlApp.get_Range("J5", "J"+(dgv_data.RowCount + 4).ToString()).NumberFormat = "@";
xlApp.get_Range("K5", "K" + (dgv_data.RowCount + 4).ToString()).NumberFormat = "@";
xlApp.get_Range("C5", "C" + (dgv_data.RowCount + 4).ToString()).NumberFormat = "@";
//--------------------------------------------------------
// xlApp.get_Range("A1:A360,B1:E1", Type.Missing).Merge(Type.Missing);
//---------------------------------------------------
int i = 0;
int j = 0;
for (i = 0; i <= dgv_data.RowCount - 1; i++)
{
xlApp.get_Range("A"+(i+5).ToString(), "M"+(i+5).ToString()).HorizontalAlignment = Excel.XlHAlign.xlHAlignLeft;
for (j = 0; j <= dgv_data.ColumnCount - 1; j++)
{
DataGridViewCell cell = dgv_data[j, i];
if ((j != 11) && (j != 12))
{
if ((cell.Value.ToString() == "-") || (cell.Value.ToString() == "0"))//ตรวจสอบข้อมูลที่ขาด
{
xlWorkSheet.Cells[i + 5, j + 1] = "";
}
else
{
xlWorkSheet.Cells[i + 5, j + 1] = cell.Value;
}
}
}
}
xlWorkBook.SaveAs(saveFileDialog1.FileName,Excel.XlFileFormat.xlWorkbookNormal, misValue, misValue, misValue, misValue, Excel.XlSaveAsAccessMode.xlExclusive, misValue, misValue, misValue, misValue, misValue);
xlWorkBook.Close(true, misValue, misValue);
xlApp.Quit();
releaseObject(xlWorkSheet);
releaseObject(xlWorkBook);
releaseObject(xlApp);
MessageBox.Show("Excel file created");
}
private void releaseObject(object obj)
{
try
{
System.Runtime.InteropServices.Marshal.ReleaseComObject(obj);
obj = null;
}
catch (Exception ex)
{
obj = null;
MessageBox.Show("Exception Occured while releasing object " + ex.ToString());
}
finally
{
GC.Collect();
}
}
//--------------------------------------------------- end excel -------------------------------------------
ป้ายกำกับ:
c# excel
วันพฤหัสบดีที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
c# การสร้าง List ข้อมูลเพื่อเป็น item ให้ combo box
ขั้นตอนที่1
สร้างคลาสของข้อมูลตามโครงสร้างนี้
public class reportType
{ string name;
int value;
public reportType(string inName, int inValue)
{
name = inName;
this.value = inValue;
}
public string reportName
{
get
{
return name;
}
}
public int reportValue
{
get
{
return value;
}
}
}
สร้าง list ข้อมูล
List<reportType> list = new List<reportType>();
list.Add(new reportType("A", 11));
list.Add(new reportType("B", 12));
list.Add(new reportType("C", 13));
สร้างคลาสของข้อมูลตามโครงสร้างนี้
public class reportType
{ string name;
int value;
public reportType(string inName, int inValue)
{
name = inName;
this.value = inValue;
}
public string reportName
{
get
{
return name;
}
}
public int reportValue
{
get
{
return value;
}
}
}
สร้าง list ข้อมูล
List<reportType> list = new List<reportType>();
list.Add(new reportType("A", 11));
list.Add(new reportType("B", 12));
list.Add(new reportType("C", 13));
ผูกกับ combo box
cb_reportType.DisplayMember = "reportName";
cb_reportType.ValueMember = "reportValue";
cb_reportType.DataSource = list;
ป้ายกำกับ:
c#
วันพุธที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
c# กล่องข้อความยืนยัน
DialogResult dlg = MessageBox.Show("คุณต้องการลบบิลเลขที่ \"" + dgv_delSaleType[0, this.dgv_delSaleType.CurrentCell.RowIndex].Value.ToString() + "\" ใช้หรือไม่", "ยืนยัน", MessageBoxButtons.YesNo, MessageBoxIcon.Question);
if (dlg == DialogResult.Yes){
//--- คำสั่งเมื่อกดปุ่ม ok
}
if (dlg == DialogResult.Yes){
//--- คำสั่งเมื่อกดปุ่ม ok
}
ป้ายกำกับ:
c#
c# diable Stripmenu
::Menu item ::
menuStrip1.Items[2].Visible = false;
::item::
แกไขขอมลToolStripMenuItem.Visible = false;
menuStrip1.Items[2].Visible = false;
::item::
แกไขขอมลToolStripMenuItem.Visible = false;
ป้ายกำกับ:
c# diable Stripmenu
วันอังคารที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554
c# เข้ารหัส MD5
using System.Text;
using System.Security.Cryptography;
public void DoMD5(string input)
{
string encrypted = [color=#4000FF]EnCryptToMD5[/color](txtpassword.text);
Response.Write(encrypted );
}
public static string EnCryptToMD5(string input)
{
MD5CryptoServiceProvider md5 = new MD5CryptoServiceProvider();
byte[] bs = System.Text.Encoding.UTF8.GetBytes(input);
bs = md5.ComputeHash(bs);
StringBuilder sb = new StringBuilder();
foreach (byte b in bs)
{
sb.Append(b.ToString("x2").ToLower());
}
return sb.ToString();
}
using System.Security.Cryptography;
public void DoMD5(string input)
{
string encrypted = [color=#4000FF]EnCryptToMD5[/color](txtpassword.text);
Response.Write(encrypted );
}
public static string EnCryptToMD5(string input)
{
MD5CryptoServiceProvider md5 = new MD5CryptoServiceProvider();
byte[] bs = System.Text.Encoding.UTF8.GetBytes(input);
bs = md5.ComputeHash(bs);
StringBuilder sb = new StringBuilder();
foreach (byte b in bs)
{
sb.Append(b.ToString("x2").ToLower());
}
return sb.ToString();
}
c# การเรียกใช้ Store และ ดึงข้อมูลที่ได้จาก store
private string loadNumData()
{
conDB conDB01 = new conDB();
string conStr = conDB01.getConStr();
SqlConnection conn = new SqlConnection(conStr);
conn.Open();
SqlCommand cmd = new SqlCommand("dbo.SP_getNumImdata", conn);
cmd.CommandType = CommandType.StoredProcedure;
cmd.Parameters.Add("@inDept", SqlDbType.VarChar).Value = lb_dept.Text;
cmd.Parameters.Add("@inUnit", SqlDbType.NVarChar).Value = lb_unit.Text;
SqlDataAdapter myAdapter = new SqlDataAdapter(cmd);
DataSet ds = new DataSet();
myAdapter.Fill(ds, "numData");
conn.Close();
if (ds.Tables["numData"].Rows.Count < 1)
{
return "No data";
}
else
{
return ds.Tables["numData"].Rows[0]["num"].ToString(); // ข้อมูลจาก store
}
}
{
conDB conDB01 = new conDB();
string conStr = conDB01.getConStr();
SqlConnection conn = new SqlConnection(conStr);
conn.Open();
SqlCommand cmd = new SqlCommand("dbo.SP_getNumImdata", conn);
cmd.CommandType = CommandType.StoredProcedure;
cmd.Parameters.Add("@inDept", SqlDbType.VarChar).Value = lb_dept.Text;
cmd.Parameters.Add("@inUnit", SqlDbType.NVarChar).Value = lb_unit.Text;
SqlDataAdapter myAdapter = new SqlDataAdapter(cmd);
DataSet ds = new DataSet();
myAdapter.Fill(ds, "numData");
conn.Close();
if (ds.Tables["numData"].Rows.Count < 1)
{
return "No data";
}
else
{
return ds.Tables["numData"].Rows[0]["num"].ToString(); // ข้อมูลจาก store
}
}
ป้ายกำกับ:
c# store
วันศุกร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2554
virus shortcut
แจ้งเตือนการระบาดของไวรัสช๊อตคัต (Shortcut)
เป็นไวรัสตัวใหม่ที่กำลังแพร่กระจายผ่านทางแฮนดี้ไดร์ฟและระบบเครือข่ายไวรัสถูกเขียนโดยคำสั่งสคริปต์ (Script) โดยจะสร้างไฟล์ช็อตคัต ลงในแฮนดี้ไดร์ฟ
พร้อมคัดลอกไฟล์ไวรัส .Trash-500 และ “h3ojKiH9lvFefFO0mG6HlXplg
LV3LYYJVHdZr3dtLhEN80DniEPQXQY2sziakx2TnS4SA044lSPkbMnv9Qm”
ซึ่งจะมีผลทำให้เครื่องมีประสิทธิภาพในการทำงานลดลง เป็นแหล่งแพร่กระจาย
ของไวรัสไปยังเครื่องอื่นๆ หรือเปิดใช้งานไม่ได้เลย
รูปแบบและลักษณะของไวรัส
หลักการทำงาน- เมื่อเสียบแฮนดี้ไดร์ฟที่มีไวรัสตัวนี้ ในแฮนดี้ไดร์ฟจะมีไฟล์ไวรัสซึ่งจะแฝงตัวอยู่และมีลักษณะเป็นโฟลเดอร์แบบช็อตคัต ตามรูปที่1 ซึ่งในช็อตคัตก็จะแฝงชุดคำสั่ง เพื่อเรียกการทำงานของไวรัส
- เมื่อดับเบิลคลิกที่โฟลเดอร์ต่างๆ ที่มีลักษณะเป็นช็อตคัตภายในแฮนดี้ไดร์ฟ ไวรัสตัวนี้ก็จะทำงานโดยการก๊อปปี้ตัวเองลงไปในเครื่อง
- ไวรัสจะทำการแพร่กระจายตัวเองไปในระบบเครือข่ายและดาวน์โหลดไวรัสมาเพิ่ม
- เมื่อมีการเสียบแฮนดี้ไดร์ฟที่เครื่องที่ติดไวรัส ไวรัสจะทำการแอบซ่อนโฟล์เดอร์ที่มีอยู่ในแฮนดีไดร์ฟและคัดลอกตัวเองลงในแฮนดี้ไดร์ฟพร้อมกับเปลี่ยนชื่อให้เหมือนกับโฟลเดอร์ที่เคยมีอยู่ เพื่อหลอกให้ผู้ใช้ดับเบิลคลิกและแพร่กระจายไวรัสต่อไปเรื่อยๆ
วิธีการป้องกันและกำจัดไวรัสช็อตคัต
- อุปกรณ์แฮนดี้ไดร์ฟ หรือสื่อบันทึกข้อมูลแบบพกพา จะมีโฟลเดอร์ที่เป็นช็อตคัตและโฟลเดอร์แบบปกติจะถูกแอบซ่อน หรือทำให้มองไม่เห็น
- หน้าแรก(Homepage) ของเว็บบราวเซอร์ จะถูกเปลี่ยนเป็นเว็บไซต์ที่มีตัวอักษรแปลกๆ ซึ่งตรวจสอบพบว่าจะมีการไปโหลดไวรัสมาเพิ่มเมื่อเข้าเว็บไซต์
- เครื่องมีอาการผิดปกติ เช่น เครื่องจะทำงานช้า เข้าเว็บไซต์ไม่ได้ มีเสียง “ติ๊ดๆ” ดังเป็นระยะ
- เข้าใช้งานวินโดวส์ไม่ได้ โดยมีลักษณะโหลดหน้าต่างก่อนเข้าวินโดวส์ซ้ำๆ
***หมายเหตุ*** เมื่อแฮนดี้ไดร์ฟ ติดไวรัสนี้แล้ว อย่า!!!!! คลิกเพื่อเปิดไฟล์หรือดับเบิ้ลคลิกไฟล์ที่กลายเป็น shortcut เด็ดขาด ไม่เช่นนั้น เครื่อง คอมพิวเตอร์เครื่องนั้นจะกลายเป็นแหล่งแพร่ไวรัสทันที
วิธีการใช้งานโปรแกรม SPKAutorunKiller (จัดการไวรัสในแฮนดี้ไดร์ฟเท่านั้น)
ดาวน์โหลดโปรแกรมได้จาก SPK Autokiller V2.4
- เมื่อดาวน์โหลดเสร็จสิ้น สามารถติดตั้งโปรแกรมได้ 2 วิธี
- คลิกเลือกที่ปุ่ม Run ----> Install เพื่อติดตั้งโปรแกรม
- ดับเบิลคลิกที่ไฟล์ SPKAutokillerV2.4.exe -----> Run -----> Install เพื่อติดตั้งโปรแกรม
- หากติดตั้งโปรแกรมแล้วเครื่องเตือนว่ามีerror บางอย่างและไม่มีสัญลักษณ์ SPK ขึ้นที่มุมล่างขวา
ให้ดาวน์โหลด โปรแกรม DOTNET ซึ่งเป็นตัวเสริมมาติดตั้งเพิ่มและดิบเบิลคลิกที่ไอค่อน Spk ที่หน้าจออีกครั้ง
- โปรแกรมจะถูกติดตั้งไว้ในเครื่อง และทำการลบไวรัสโดยอัตโนมัติเมื่อมีการเสียบแฮนดี้ไดร์ฟ หรือสื่อบันทึกข้อมูลแบบพกพา
การแก้ไขกรณี แฮนดี้ไดร์ฟ โดนไวรัสแล้ว ต้องการให้แสดงไฟล์ข้อมูลที่โดนซ่อนออกมาโหลดโปรแกรม Unhidden.rar และ Unhidden2.rar
วิธีใช้งานเบื้องต้น
1. แตกไฟล์ทั้ง 2 อัน
2.นำไฟล์ Unhidden v2.exe และ Unhidden.exe ใส่ไปที่ FlashDrive ที่ติด ไวรัส
****วิธีนำไฟล์ลง Flashdirve ให้ คลิกขวาเลือก Send To น่ะครับ
3.ดับเบิ้ลคลิกที่ไฟล์ในข้อ 2 ที่ละไฟล์
1. แตกไฟล์ทั้ง 2 อัน
2.นำไฟล์ Unhidden v2.exe และ Unhidden.exe ใส่ไปที่ FlashDrive ที่ติด ไวรัส
****วิธีนำไฟล์ลง Flashdirve ให้ คลิกขวาเลือก Send To น่ะครับ
3.ดับเบิ้ลคลิกที่ไฟล์ในข้อ 2 ที่ละไฟล์
ไฟล์แรก Unhidden.exe
ไฟล์ที่ 2 Unhidden2.exe
4.ลบไฟล์ที่เป็น ShortCut ออกให้หมด
กรณีคิดว่าเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นเป็นตัวแพร่เชื้อ
1.ให้ติดตั้งโปรแกรม SPK Autokiller
2.ให้ใช้โปรแกรม ComboFix จัดการไวรัสในเครื่อง
2.ให้ใช้โปรแกรม ComboFix จัดการไวรัสในเครื่อง
****การใช้งาน ComboFix แนะนำให้ใช้งานบน SeftMode นะครับ เพื่อให้ได้ผลที่แน่นอนกว่า แต่ตัว ComboFix อาจจะมีปัญหากับการจัดการไวรัสที่แผงตัวเข้าสู่ระบบ Windows หรือไฟล์ System ดังนั้นก่อนการใช้งาน ComboFix แนะนำให้ Backup ข้อมูลที่สำคัญก่อนนะครับ เพราะถ้าไวรัสติดไฟล์ระบบแล้ว หากComboFIx ทำงาน ก็อาจจะลบไฟล์ระบบนั้นทิ้งทันที จึงทำให้ WIndows อาจจะล่มได้นะครับ (เตือนแล้วนะ) ดังนั้น ComboFix ขอให้เป็นทางเลือกสุดท้ายนะครับ แต่ครูลองดูแล้ว เครื่องก้ไม่มีปัญหา แต่กับเครื่องอื่นไม่รับประกันครับ
Download Programs
1. SPK Autokiller V2.4
2. Unhidden.rar และ Unhidden2.rar3. Sophos Windows Shortcut Exploit Protection Tool.rar
4. ComboFix
2. Unhidden.rar และ Unhidden2.rar3. Sophos Windows Shortcut Exploit Protection Tool.rar
4. ComboFix
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
ป้ายกำกับ:
virus
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)