รีวิว Samsung Galaxy Tab 10.1 16 GB 3G ตอน 2

Samsung Galaxy Tab 10.1 เป็นแท็บเล็ตที่กระแสแรงมากๆ ทั้งในบ้านเราและก็ในต่างประเทศ แต่ใน Case บ้านเราจะออกไปแนวดราม่าซะเยอะ แต่ก็ไม่แปลกครับ ในเมือสินค้าเป็นที่น่าสนใจ หลายๆ คนจับตามอง และคาดหวัง เมื่อไม่ได้ตามที่หวังก็เกิดดราม่ากัน แต่เอาเป็นว่าเราจะไม่พูดถึงดราม่าละกัน

Samsung Galaxy Tab 10.1 นั้นเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อช่วงต้นปี ที่งาน Mobile World Congress 2011 จัดขึ้นที่เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน (Samsung Galaxy S II ก็เปิดตัวในงานนี้ด้วย) โดยชื่อที่ใช้เปิดตัวในตอนนั้นคือ Galaxy Tab II ผ่านหลังเปลี่ยนมาเป็น Galaxy Tab 10.1 (และก็มี Galaxy Tab 8.9 มาเพิ่มอีกตัว) ในงานเปิดตัวครั้งนั้นเรียกเสียงฮือฮาได้เยอะมาก ด้วยสเปคของตัวเครื่องที่หลายๆ คนต้องอยากได้ แต่หลังจากงานเปิดตัวผ่านไปไม่นาน ก็ถึงคราวของฝั่ง Apple เปิดตัว iPad 2 ซึ่งทำให้ทางซัมซุงต้องมีการปรับเจ้า Samsung Galaxy Tab 10.1 ใหม่อีกรอบ
ต้องบอกว่า Samsung Galaxy Tab 10.1 ในตอนแรกนั้นไม่ได้บางเหมือนอย่างที่เห็นในตอนนี้ ทางซัมซุงมีการปรับแผนบกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ใหม่หลังจากที่ทาง Apple ได้เปิดตัว iPad 2 ออกมาด้วยขนาดที่บางกว่าเดิม ทำให้ iPad 1 แท็บเล็ตตัวแรกของแอปเปิลต้องทำการลดราคาลงมาอยู่ที่หนึ่ง หมื่นต้นๆ ซัมซุงก็เลยมีการปรับดีไซน์และสเปคบางส่วนเพื่อมาสู้กับเจ้า iPad 2 จนมากลายเป็น Samsung Galaxy Tab 10.1 ที่บางเฉียบอย่างที่เห็นตอนนี้ (ถึงแม้จะมีหลายๆ คนบอกว่า หลอก iPad 2 มาก็ตาม) แต่มันก็กลายเป็นแท็บเล็ตแอนดรอยด์ที่บางกว่า iPad 2 จนได้ เรียกว่าทางทีม R&D ของซัมซุงนั้นตัดสินใจเพียงชั่วข้ามคืนกันจริงๆ ในที่สุดก็ได้ Galaxy Tab 10.1 ที่ปรับปรุงผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ออกมาโดยมี รูปโฉมที่บางลงจากที่เปิดตัวครั้งแรกที่ 10.9 มม. เป็น 8.6 มม.

ในแผนเดิมของซัมซุงนั้นจะปล่อย Galaxy Tab 10.1 ออกมาพร้อมกับ Android 3.0 แต่ในที่สุดก็เปลี่ยนแผนอีกครั้งหลังจากที่ทางกูเกิลได้ปล่อย Android 3.1 ออกมา ทางซัมซุงจึงอัพเกรด OS เป็น Android 3.1 เท่ากับว่า Samsung Galaxy Tab 10.1  นั้นจะมาพร้อมกับ Android 3.1 ตั้งแต่ตอนขาย ผู้ใช้งานไม่จำเป็นทำการอัพเกรด OS เอง การที่ซัมซุงรอปล่อย Galaxy Tab 10.1 มาพร้อมกับ Android 3.1 เลยเป็นสาเหตุทำให้ Galaxy Tab 10.1 มีขายช้าหรือเปล่าผมไม่แน่ใจครับ อาจจะมีส่วนก็เป็นได้
Samsung Galaxy Tab 10.1 ได้เปิดจองในไทยแล้ว (ที่เกิดดราม่ากันอ่าแหละ) โดยเปิดให้จองครั้งแรกในงาน Thailand Mobile Expo 2011 Hi-End ช่วงต้นเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา และล่าสุดทางซัมซุงก็ได้ออกมาประกาศแจ้งเลื่อนกำหนดการส่งมอบ Samsung Galaxy Tab 10.1 สำหรับผู้ที่จอง Galaxy Tab 10.1 ก่อนหรือภายในงาน Thailand Mobile Expo 2011 Hi-Endให้มารับของได้ในวันที่ 25 สิงหาคม ส่วนรายละเอียดสถานที่ทาง AIS จะโทรไปแจ้งให้ผู้ที่จองได้ทราบอีกครั้งครับ โดยทางซัมซุงได้ชี้แจ้งสาเหตุที่ต้องเลื่อนการส่งมอบว่า “เนื่องด้วยซัมซุงได้มีการปรับเพิ่ม software บน Android 3.1 เพื่อให้ลูกค้ามีประสบการณ์การใช้งานที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นการใส่ฟังก์ชั่น Live Panel, Mini App tray ตลอดจนการ debug ต่างๆ ซึ่งมีผลทำให้เกิดการส่งมอบเครื่องล่าช้าทั่วโลก”
ทั้งนี้ทางซังซุงได้มอบของกำนัลพิเศษให้กับลูกค้าที่จองเครื่องทุกท่านเป็น เสื้อลิขสิทธิ์ของ Chelsea สามารถมารับพร้อมเครื่องได้ในวันที่ 25 สิงหาคม

Samsung Galaxy Tab 10.1 เป็นแท็บเล็ตหน้าจอขนาด 10.1 นิ้ว ที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Honeycomb (Android 3.1) ที่เป็นระบปฏิบัติการที่ถูกพัฒนามาเพื่อแท็บเล็ตโดยเฉพาะ ภายใต้คอนเซ็ปต์ ประสบการณ์ความบันเทิงไร้ขีดจำกัดแบบออน เดอะ โก (Experience the Best Entertainment On the Go) มาพร้อมกับดีไซน์บางเฉียบเพียงแค่ 8.6 มม. (ตอนแรกหนา 10.9 มม.) ถือว่าเป็นแท็บเล็ตที่บางที่สุดในโลกบนหน้าจอแบบ WXGA ความละเอียด 1280X800 พิกเซล บนหน้าจอสัดส่วน 16:9 น้ำหนัก 595 กรัม พร้อมด้วยแบตเตอรี่ความจุ 7,000 mAh (สเปคตอนแรกแบตเตอรี่แค่ 6860 mAh) ที่ใช้ได้ยาวนานถึง 10 ชม. รองรับการชมภาพยนตร์แบบ Full-HD 1080p และหน่วยประมวลผล (CPU) แบบ Dual-Core 1GHz ส่วนกล้องหลังความละเอียด 3 ล้านพิกเซล มีระบบออโต้โฟกัส และแฟลชมาให้ มีกล้องด้านหน้า 2 ล้านพิกเซลสำหรับการใช้งานด้าน Video Call
Hardware

สเปคของ Samsung Galaxy Tab 10.1

• ระบบปฎิบัติการ แอนดรอยด์ (Android) 3.1 Honeycomb
• หน้าจอ TFT ขนาด 10.1 นิ้ว (Capacitive touchscreen) ความละเอียด 800 x 1280 พิกเซล (WXGA)
• CPU (ซีพียู): Dual-core 1GHz ARM Cortex-A9
• Chipset: Nvidia Tegra 2
• GPU: ULP GeForce
• RAM: 1 GB
• หน่วยความจำในตัวเครื่อง (Internal Memory): 16/32/64 GB
• สามารถเพิ่ม micro SD ได้ผ่านทาง micro SD connector (ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริมต้องซื้อเพิ่มนะจ๊ะ)
• ขนาด 256.6 x 172.9 x 8.6 มิลลิเมตร
• น้ำหนัก 595 กรัม
• รองรับระบบมัลติทัช (Multi-touch support)
• รองรับ GSM 850/900/1800/1900 MHz
• รองรับ HSDPA 850/900/1900/2100 MHz รับได้สุงสุด 21 Mbps
• WiFi 802.11 a/b/g/n
• สามารถใช้เป็น WiFi Hotspot ได้
• Bluetooth v2.1
• A-GPS
• แบตเตอรี่ Li-Po ความจุ 7000 mAh
• รองรับ Flash Player 10.3
• กล้องด้านหลังความละเอียด 3 ล้านพิกเซล พร้อมระบบ Auto Focus และ Touch Focus พร้อม Flash LED
• สามารถบันทึกวีดีโอในความละเอียด HP 720p (1280 x 720 พิกเซล 30fps)
• ถ่ายภาพนิ่งความละเอียดสูงสุด 2048 x 1536 พิกเซล
• กล้องด้านหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
• มาพร้อมกับ TouchWiz UX UI
• Gorilla Glass display
• สเตอริโอ 2 ลำโพง รองรับไฟล์เพลงได้หลากหลาย MP3 , ACC , AAC+ , eAAC+ , WMA , RA
• เครื่องเล่นวีดีโอ WMV9 , WMV7 , WMV8 , H.264 , MPEG4 , H.263 , VP8
• สามารถเล่นวิดีโอขนาด HD 1080p (1920 x 1080 พิกเซล หรือ 30fps)
• Ready Hub คลังหนังสือติดตัว
• Photo Editor แอพลิเคชั่นสำหรับตกแต่งภาพ
• Swype Keyboard
• Google Maps (Turn-by-turn Nave) GMS/Google Applications/Android Ecosystem
• Social Hub (Integrated PB & Messaging ) & Readers Hub , Live Panel

Samsung Galaxy Tab 10.1 เป็นแท้บเล็ตอีกตัวนึงที่แค่มองจากแว๊บแรกก็ดูน่าสนใจแล้ว ด้วยดีไซน์ที่สวยงาม หรูหราและผมก็ไม่ปฏิเสธถ้าใครสักคนจะพูดว่า “เหมือน iPad 2” เพราะผมเองก็คิดเช่นนั้น Galaxy Tab 10.1 ในตอนแรกที่ซัมซุงเปิดตัวนั้นขนาดของตัวเครื่องคือ 246.2 x 170.4 x 10.9 มิลลิเมตร ภายหลังได้ปรับใหม่กลายเป็น ขนาด 256.6 x 172.9 x 8.6 มิลลิเมตร จากตัวเลขจะเห็นว่ามันแตกต่างกัน ผมเองไม่ได้สัมผัสเจ้า Galaxy Tab 10.1 ตัวแรก บอกไม่ได้เหมือนกันว่าแตกต่างกันมากน้อยขนาดไหน ในส่วนของน้ำหนักนั้น ต้องบอกก่อนเลยว่าตรงนี้ข้อมูลผมไม่ค่อยชัวร์เท่าไหร่นะครับ น้ำหนักตัวแรกคือ 599 กรัม (ไม่แค่อยแน่ใจ) แต่ภายหลังเหลือ 595 กรัม (อันนี้ชัวร์) เรื่องน้ำหนักผมว่าไม่น่าจะรู้สึกถึงความแตกต่าง

หลังจากที่ซัมซุงปรับแผนใหม่ทำให้ Samsung Galaxy Tab 10.1 กลายเป็นแท็บเล็ตที่บางตัวเจ้า iPad 2 ทันที แต่ด้วยความบางมันก็แลกมาด้วยอะไรบางอย่าง หากใครได้ลองสัมผัสให้ลองกดหน้าจอด้านหลังเวลาใช้งานดู มันจะเป็นจุดๆ เป็นสีบนหน้าจอก็หวั่นๆ ว่ามันจะหักหรือเปล่า แต่ถ้าใช้งานปกติ (แบบดูแลรักษา) ก็คงไม่พังง่ายๆ หรอกครับ ในเรื่องของงานประกอบนั้นแน่หนาครับ แต่เพราะความบางนี่แหละ ที่อาจจะทำให้เราดูแลรักษาเครื่องมากขึ้น
Samsung Galaxy Tab 10.1 เป็นแท็บเล็ตบนหน้าจอ 10.1 นิ้วที่ดูสวยงามมาก ยิ่งถ้าลองเทียบกับแท็บเล็ตที่เป็นระบบปฏิบัติการ Honeycomb เหมือนกัน ผมว่าตัวนี้กินขาดในเรื่องของดีไซน์ และน้ำหนัก วัสดุด้านหลังเป็นผิวมัน เวลาถือก็เสียวมันตกอยู่เหมือนกัน ด้วยความบางของมัน บางทีผมรู้สึกว่ามันถือลำบาก หรืออาจจะเพราะไม่ชินมือด้วยมั่ง

Samsung Galaxy Tab 10.1 มาพร้อมกับกล้องหน้าความละเอียดสูงถึง 2 ล้านพิกเซล เพื่อรองรับการใช้งานด้าน Video Call ไม่ว่าจะผ่าน WiFi หรือ 3G ก็ได้เช่นกัน ตัวกล้องจะอยู่ตรงกลางพอดี (ในแนวนอน) สำหรับแอพลิเคชั่นก็แล้วแต่จะเลือกใช้งานครับ ใน Honeycomb หรือแอนดรอยด์เวอร์ชั่น 3.0 นั้นมีแอพลิเคชั่นอย่าง Google Talk มาให้รองรับการใช้งานด้าน Video Call ด้วยเช่นกัน

Samsung Galaxy Tab 10.1 ก็เป็นแท็บเล็ตอีกหนึ่งรุ่นที่ไม่เหสมะกับการเล่นไปด้วย เดินไปด้วย ถึงแม้ว่าน้ำหนักของตัวเครื่องจะเบาก็ตาม ด้วยขนาดหน้าจอถึง 10.1 นิ้วผมว่ามันไม่ง่ายถ้าจะถือเดินเล่นไปด้วย เสี่ยงต่อการล้นอย่างมาก ถ้าเดินสะดุดหรือเดินชนใครก็มีล้นได้เหมือนกัน เหมาะแก่การนั่งเล่น วางบนโต๊ะ หรือพวก Dock มากกว่า ถ้าถือก็ไม่ควรจะเดิน แต่ถ้าใครไม่กลัวตกก็ไม่ว่ากันครับ

ด้านล่างของเจ้า Galaxy Tab 10.1 จะมี port สำหรับต่ออุปกรณ์ต่างๆ เช่น ต่อสายชาร์จแบตเตอรี่, Keyboard Dock, Desktop Dock, Micro SD Connector และอื่นๆ โดย Port สำหรับเชื่อมต่อนั้นมี Port เดียวไม่มีช่องสำหรับเสียบ Micro USB เหมือร่นอื่นๆ แน่ไม่สามารถใช้ Port รวมกับรุ่นอื่นๆ ได้เช่นกัน (ภาพไม่ค่อยสวยขออภัยด้วยครับ เครื่องส่งคืนซัมซุงไปแระ ถ่ายใหม่ไม่ได้ หึหึ มีอีกหลายภาพที่แย่กว่านี้อีก ^ ^) อ่อที่เห็นรูเล็ก นั่นเป็นไมโครโฟนครับ

ด้านบนของ Galaxy Tab 10.1 จะมีช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดซึ่งรองรับระบบ GSM ที่ความถี่ 850/900/1800/1900 MHz และรองรับ HSDPA (3G) ที่ความถี่ 850/900/1900/2100 MHz รับได้สุงสุด 21 Mbps ซึ่งสามารถใช้ 3G ของ True และ DTAC ที่ความถี่ 850 MHz และก็ 3G ของ AIS ที่ความถี่ 900 MHz ได้ จริงๆ ผมก็ยังสับสนมึนงงอยู่เหมือนกัน ว่าเจ้า Galaxy Tab 10.1 เนี่ยจะมีการแบ่งเหมือนกับ Galaxy S II หรือเปล่า เท่าที่ลองเข้าดูรายละเอียดในเว็บของ AIS เค้าเขียนระบุสเปคว่ารองรับ 3G ที่ 900/1900/2100 MHz ครับ ก็ไม่รู้ว่ายังไง ส่วนซิมก็สามารถใช้ขนาดธรรมดามาตรฐานได้เลยครับ
ถัดไปก็จะเป็นช่องสำหรับเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ถัดไปอีกจะเป็นปุ่มเพิ่มและลดเสียง สุดท้ายก็คือปุ่ม Power สำหรับเปิดและปิดเครื่อง

แต่เพื่อความชัวร์ผมได้ลองเอาซิม 3G ของ True ซึ่งเป็นความถี่ 850 MHz จากมือถือ BlackBerry ของผมมาใส่ดูปรากฏว่าก็สามารถใช้งานได้นะครับ ขึ้นไอคอน 3G เล็กๆ ใน Notification ตามภาพด้านบน ก็หมายความว่า Galaxy Tab 10.1 ตัวที่ผมรีวิวนั้นรองรับความถี่ 850 MHz และก็น่าจะรองรับ 900 MHz พอดีผมไม่มีซิม AIS เลยไม่สามารถทดสอบดูให้ได้ครับ

ลำโพงของ Galaxy Tab 10.1 จะมีอยู่ 2 ตัวอยู่ด้านข้าง ซ้ายและขวา เท่าที่ลองเปิดเสียงดังสุด และเปิดเพลงฟังดู รู้สึกว่าเสียงมันเบา แต่ข้อมูลของ Galaxy Tab 10.1 ที่เอาลำโพงของเครื่องมาไว้ด้านข้างคือ ไม่ว่าเราจะวางเครื่องในแบบไหนเสียงก็ยังดังสม่ำเสมอ ไม่ต้องกลัวว่าถ้าวางเครื่องกับพื้นแล้วเสียงจะเบาลง เพราะลำโพงไม่ได้อยู่ด้านหลังเหมือนหลายๆ รุ่น แต่ก็เพราะลำโพงอยู่ด้านข้างนี้แหละมั่งเลยทำให้เสียงเบาลงด้วย

ความบางของ Galaxy Tab 10.1 นั้นบางยิ่งกว่าเหรียญ ๒๕ สตางค์ของบ้านเราซะอีก ในอนาคตอาจจะมีแท็บเล็ตที่บางกว่านี้ออกมาก็เป็นได้ จะเป็น iPad 3 หรือ Galaxy Tab รุ่นหนก็ติดตามกันดูครับ ไม่แน่ค่ายอื่นอาจจะสนใจร่วมสงครามความบางด้วยก็ได้

ด้านหลังของ Galaxy Tab 10.1 ขาวมาก ใครที่แพ้ความขาวอาจจะมีของขึ้น หรือหวั่นไหวได้ ^ ^ Galaxy Tab 10.1 นั้นมีอยู่ 2 สีคือสีดำ และสีขาว และไม่สามารถแกะฝาหลังได้ ไม่สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่เองได้ ไม่มีช่องสำหรับเพิ่ม Micro SD Card แต่สามารถเพิ่มโดยผ่านทาง Micro SD Connector รู้สึกว่าจะไม่ได้แถมมาให้ด้วย อยากเพิ่ม หรืออยากใช้ต้องหาซื้อเอง แต่คิดว่าทางซัมซุงน่าจะนำเข้ามาขาย ส่วนเรื่องราคายังไม่ทราบครับ และเท่าที่ผมทราบคือมี USB Connector Kit ที่จะประกอบไปด้วย สายเชื่อมต่อ USB และ SD Card Reader ด้วย ไม่แน่ใจว่าจะเป็นชุดที่แถมมากับชุดขายหรือเปล่า

ในส่วนวัสดุตรงขอบของ Galaxy Tab 10.1 รู้สึกจะถูกเคือบด้วยสีโครเมียมสีเงินสวยงาม ฝาด้านหลังก็ดูสวยเงางามน่าสัมผัส และจะมีรุ่นเขียนระบุไว้ด้านหลังตัวเครื่องว่าเป็นรุ่น Wi-Fi หรือ 3G+Wi-Fi

กล้องด้านหลังของ Galaxy Tab 10.1 ความละเอียด 3 ล้านพิกเซล พร้อมระบบ Auto Focus และ Touch Focus พร้อม Flash LED สามารถบันทึกวีดีโอในความละเอียด HP 720p (1280 x 720 พิกเซล 30fps) ถ่ายภาพนิ่งความละเอียดสูงสุด 2048 x 1536 พิกเซล

ลำโพงทั้ง 2 ตัวซ้ายและขวาของตัวเครื่อง โดยลำโพงทั้ง 2 ตังเป็นลำโพงแบบสเตอริโอ อ่อตัว Software ของ Galaxy Tab 10.1 รองรับการกระขายเสียงแบบ 5.1 Speaker ด้วยนะครับ
เทียบกับรุ่นอื่นๆ

ดูรูปเพิ่มเติมได้ที่ ### Gallery ### | Samsung Galaxy Tab 10.1

Accessories
ในส่วน Accessories  ของ Galaxy Tab 10.1 นั้นผมจะแยกเป็นรีวิวเฉพาะแต่ละ Accessories ไปแต่ในรีวิวนี้ผมจะให้ดูรูปไปพรางๆ ก่อนว่ามีอะไรบ้าง ที่น่าสนใจ ซึ่งต้องบอกว่าเจ้า Galaxy Tab 10.1 เป็นแท็บเล็ตที่มี Accessories ให้เลือกใช้มากมายไม่แพ้ iPad เลยทีเดียว ล่าสุดก็มี Smart Case ที่เลียนแบบ Smart Cover ของ iPad 2 มา เห้นว่าถูกทางซัมซุงห้ามขายแล้ว
Keyboard Dock for Galaxy Tab 10.1

ตัวแรกเป็น Keyboard Dock สำหรับ Galaxy Tab 10.1 ในรูปจะสังเกตเห็นว่าตัวคียบอร์ดนั้นยังไม่มี Layout ภาษาไทย แต่ทางซํมซุงบอกว่า Keyboard Dock รุ่นที่จะวางขายนั้นมี Layout ภาษาไทยแน่นอน และสามารถสนับสนุนการพิมพ์ภาษาไทย แต่ว่าต้องทำการอัพเกรด Software ซะก่อน ซึ่งตอนนี้ (ณ ช่วงเวลาที่ผมรีวิว) ยังไม่สามารถอัพเกรดได้ และยังไม่มีกำหนดว่าจะ็ป้นเมื่อไหร่ ส่วนเรื่องราคาไว้ผมจะหาข้อมูลเพิ่มเติมมาอัพเดตให้ทีหลังครับผม ตัวคียบอร์ดนั้นจะมีปุ่มหลายๆ อันที่สามารถทำงานได้เหมือนการสัมผัสที่หน้าจอปุ่ม ปุ่ม Home, ปุ่ม Back, ปุ่ม Recent App, ปุ่ม Application, ปุ่มซ้อนและแสดง Keyboard นอกจกานั้นยังสามารถเพิ่มและลดความสว่างหน้าจอ เพิ่มลดเสียงผ่านทางปุ่มใน Kayboard ได้ทันที
Keyboard Dock ยังมีช่องสำหรับต่อ Port USB เพื่อชาร์จแบตเตอรี่ และมีช่องสำหรับเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรด้วย

Review Keyboard Dock สำหรับ Samsung Galaxy Tab 10.1

Bluetooth keyboard with case for Galaxy Tab 10.1

ตัวที่สองเป็น Bluetooth keyboard with case สำหรับ Galaxy Tab 10.1 ตัวนี้จะประกอบไปด้วย Kayboard Bluetooth และตัว Case รวมอยู่ใน Case ครองคลุมทั้งตัวคียบอร์ดและตัวเครื่อง ตัวนี้ก็ยังไม่มี Layout ภาษาไทยเหมือนกัน และเครื่องสร้างของ Layout ก็จัดเรียงเหมือนกันกับ Keyboard Dock

ด้านหลังของ Bluetooth keyboard with case ของ Galaxy Tab 10.1 นั้นจะมีอุปกรณ์สำหรับใช้ตั้ง Case ให้อยู่โดยสามารถปรัลองศาได้ตามต้องการ แต่ข้อเสียคือถ้าเป็นพื้นที่มีความมันมักจะตั้งไม่อยู่ ด้านข้างของ Keyboard จะมีช่อง Micro USB สำหรับชาร์ตแบตเตอรี่ Keyboard

Bluetooth Keyboard with Cover สำหรับ Galaxy Tab™ 10.1

Desktop Dock [Multi-Media Dock] for Galaxy Tab 10.1

Desktop Dock [Multi-Media Dock] สำหรับ Galaxy Tab 10.1 ด้านหลังจะมี Port คล้ายๆ กับ Keyboard Dock คือมีช่องสำหรับต่อ Port USB เพื่อชาร์จแบตเตอรี่ Galaxy Tab 10.1  และมีช่องสำหรับเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร

Review Multi-Media Dock สำหรับ Galaxy Tab™ 10.1

Games
Guerrilla Bob on Galaxy Tab 10.1

Angry Birds Rio on Galaxy Tap 10.1

Fruit Ninja on Galaxy Tab 10.1

Dungeon Defenders: FW Deluxe on Galaxy Tab 10.1

Samurai II: Vengeance on Galaxy Tab 10.1

Cordy & Diversion on Galaxy Tab 10.1

Galaxy on Fire 2 THD on Galaxy Tab 10.1

PINBALL HD FOR TEGRA on Galaxy Tab 10.1 

Backbreaker THD on Galaxy Tab 10.1


ขอขอบคุณ