จอมมายากล
งานสัมมนาของเท็ด (TED ย่อจาก Technology Entertainment Design) ที่มอนเทอเรย์คาลิฟอร์เนีย เป็นงานที่จัดขึ้นประจำทุกปีเพื่อแสดงผลงานวิจัยใหม่ล่าสุด ผู้เข้าร่วมสัมมนาล้วนแล้วแต่เป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับนวัตกรรมซึ่งจะเปลี่ยนแปลงโลก เป็นกลุ่มคนระดับมันสมองที่เดินทางมาจากทุกมุมโลกเพื่อค้นหาแรงบันดาลใจ
งานสัมมนาในปี 2006 ก็เหมือนกับทุกปี หอประชุมใหญ่ขนาด 500 ที่นั่ง บัดนี้เต็มแน่นจนล้น ผู้เข้าร่วมสัมมนาต่างกระหายจะรับฟังและชมการนำเสนอสิ่งประดิษฐ์ใหม่ ซึ่งไม่เคยเปิดตัวที่ไหนมาก่อน วิทยากรผู้นำเสนอมักเป็นศาสตราจารย์ผมเผ้ากระเซิง หรือไม่ก็นักวิจัยสติเฟื่องที่หมกตัวอยู่ในห้องทดลองวิทยาศาสตร์จนตัวขาวซีด จะว่าไปแล้วบรรยากาศของการสัมมนาแทบจะไม่แตกต่างจากงานประชุมผู้คลั่งไคล้ภาพยนตร์สตาร์แทรกเท่าใดนัก
เมื่อแสงไฟในห้องประชุมหรี่ลง ไฟบนเวทีก็จับที่แจฟเฟอร์สัน วาย ฮาน ซึ่งเดินออกมากลางเวทีด้วยความประหม่า ฮานเป็นชายร่างเล็ก ค่อนข้างท้วมแต่ไม่ใช่คนอ้วน ชุดสูทรสีดำแบบแมนฮัตตันเข้ากับผมสีดำและใบหน้าแบบชาวเอเชียของเขาเป็นอย่างดี ฮานไล่สายตาไปยังกลุ่มผู้ชม นั่นมหาเศรษฐีหนุ่มนามอุโฆษ เซอร์กี บริน เจ้าของบริษัทกูเกิล กำลังจ้องมองอย่างเบื่อหน่าย นั่นแจฟ บีซุส แห่งเว็บไซต์อะเมซอนกำลังคุยกับบิล จอย ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทซัน ไมโครซิสเต็ม ฮานพบว่าคนในหอประชุมล้วนแล้วแต่เป็นผู้มีชื่อเสียงในแวดวงเทคโนโลยี ส่วนเขาเป็นเพียงวาจกนิรนาม ฮาน รู้สึกตัวลีบเหลือนิดเดียว
| | สุดยอดการนำเสนอ
แล้วฮานก็เริ่มการนำเสนอ เบื้อหน้าของเขาคือจอภาพแบบพิเศษ เป็นแผ่นกระจกใสกว้าง 36 นิ้ว ทำให้ผู้ชมสามารถมองผ่านแผ่นกระจก (ซึ่งมีเส้นตารางที่เรืองแสงอ่อนๆ แต่เห็นได้ชัดในห้องประชุมซึ่งขณะนี้ค่อนข้างมืด) และเห็นอากัปกริยาทุกอย่างของฮานได้อย่างชัดเจน
ฮานตั้งสมาธิกับจอภาพตรงหน้า สมองนึกไล่เรียงถึงลำดับของการนำเสนอที่ฝึกซ้อมมา พลันความประหม่าก็มลายไป ภายในเสี้ยววินาทีเดียว ท่าทีงกเงิ่นของลูกแกะก็เปลี่ยนไปเป็นพยัคฆ์ที่ปราดเปรียว เขาร่ายนิ้วทั้งสิบลงบนผิวกระจกด้วยท่วงทีของนักมายากลผู้จัดเจน พลันบังเกิดเป็นเส้นแสงหลายเส้นไล่ไต่ขึ้นตามปลายนิ้ว เมื่อเขาโบกมือลูบไล้เส้นเหล่านั้นก็กลายเป็นคลื่น ภาพนี้ถูกขยายแล้วฉายลงบนจอภาพขนาดยักษ์ด้านหลังไปพร้อมๆ กัน ทันใดนั้นเขาก็เสกลาวาขึ้น (แบบในตะเกียงลาวาที่เป็นเครื่องแต่งห้อง) แล้วใช้นิ้วทั้งสิบเปลี่ยนแปลงรูปร่างและสีของก้อนลาวาที่ลองลอยอยู่อย่างอิสระในสภาพไร้แรงโน้มถ่วง ราวกับปฏิมากรที่กำลังรังสรรค์ศิลปะเหนือจริง |
หลังจากนั่งฟังการบรรยายประกอบสไลด์ที่น่าเบื่อจากวิทยากรอื่นๆ มาแล้วหลายชั่วโมง การนำเสนอนี้เกินความคาดหมายของผู้ชมไปมาก เสียงฮือฮาแสดงความตื่นเต้นเริ่มดังขึ้น แต่หูและสมองของฮานไม่รับรู้ เขาก็กวาดมือทีหนึ่ง ลาวาหายวับไปเหมือนเป็นอากาศธาตุ บนจอถูกแทนที่ด้วยภาพถ่ายหลายใบ เขาสลับภาพไปมา เลื่อนไปที่โน่น ไปที่นี่ โยกย้ายมันราวกับเป็นภาพถ่ายจริงๆ ที่วางอยู่บนโต๊ะ เขาขยายและหดขนาดภาพแต่ละใบโดยใช้นิ้วชี้สองนิ้ว ตรึงที่มุมของภาพแล้วเลื่อนเข้าออกอย่างรวดเร็ว มีเสียงสะอึกอากาศ เสียงอุทาน และเสียงตบมือประปรายจากผู้ชม
ผู้คนตอบรับต่อการนำเสนอดีผิดคาด ฮานพยายามกล้ำกลืนรอยยิ้ม และกล่าวแก่ผู้เข้าร่วมสัมมนาว่า “สิ่งที่ท่านได้ชมนี้คือวิธีการใหม่ ที่คนรุ่นต่อไปจะใช้เพื่อการปฏิสัมพันธ์กับคอมพิวเตอร์ยุคใหม่ซึ่งปราศจากแป้นพิมพ์และเมาส์” เสียงตบมือดังกึกก้องขึ้นห้องประชุมราวกับเปิดสวิทช์ ผู้ร่วมสัมมนาบางคนถึงกับเป่าปากด้วยความพึงพอใจอย่างถึงขีดสุด